Hightlight
- ผู้ถือหุ้นบริษัท บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) หรือ TPLAS เตรียมจ่ายปันผล 0.10บาท/หุ้น ภายในวันที่ 2 พฤษภาคมนี้
- รวมเป็นจ่ายปันผล ทั้งหมด 27 ล้านบาท
- ปัจจุบันกำลังการผลิตรวมถุงพลาสติกประมาณ 10,200 ตันต่อปี และกำลังการผลิตฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ประมาณ 1,440 ตันต่อปี
นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994)จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมีมติจ่ายปันผล งวดปี 2561 ในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นทั้งหมด 27 ล้านบาท โดยกําหนดจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 ทั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินของบริษัทฯ รวมถึงภาพรวมการดำเนินธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่บริษัทฯ มีการปรับทิศทางกลยุทธ์ ในการวางแผนเชิงรุก เพื่อขยายและเพิ่มช่องทางผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือโปรดักส์ไลน์ ซึ่งเป็นประเภทบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2562 ที่ผ่านมา ล่าสุด บริษัทฯ เตรียมที่จะนำโปรดักส์ไลน์ใหม่เริ่มทดลองตลาด เพื่อดูดีมานด์ของผู้บริโภคว่า มีปริมาณความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากน้อยเพียงใด โดยบริษัทฯยังคงเน้นทำการตลาด ผ่านช่องทางการเจาะกลุ่มหลักคือ ยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว เพื่อนำไปจำหน่ายต่อให้กับกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าปลีกในลำดับต่อไป
ทั้งนี้ในเบื้องต้นคาดว่าภายในไตรมาส 2/2562 นี้ บริษัทฯจะเสร็จสิ้นการทดสอบตลาด และจะสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ประเภทบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 3/2562 รวมถึงมีแผนที่จะเจาะตลาดไปยังกลุ่มโมเดิร์นเทรด กลุ่มอุตสาหกรรมโรงแรม กลุ่มอุตสาหกรรม ประเภทอาหาร เพื่อเพิ่มวอลุ่มและขยายช่องทางการตลาดใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้มากที่สุด เนื่องจากมองว่าผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ ยังคงมีความต้องการใช้สูงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับยังเป็นสินค้าที่สามารถนำมาทดแทนผลิตภัณฑ์เดิมๆที่มีอยู่ในท้องตลาดได้
แนวโน้มการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ใหม่
สำหรับแนวโน้มการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้ ทาง TPLAS จะให้ความสำคัญ ในเรื่องของ Green Concept เป็นหลัก โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วัสดุย่อยสลายได้ โครงสร้างของบรรจุภัณฑ์ความแข็งแรงมีคุณภาพดี ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ และสะดวกต่อการใช้งาน ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและผู้บริโภคเป็นหลัก พร้อมทั้งเชื่อว่าโปรดักส์ไลน์ บรรจุภัณฑ์ใหม่ชนิดนี้ จะสามารถเข้าต่อยอดและเพิ่มยอดขายให้กับ TPLAS ได้อย่างเติบโตและยั่งยืนในอนาคต
เนื่องจากบริษัทฯ ความลดความเสี่ยง ที่เกิดขึ้นได้หลังจากที่ผู้บริโภคหันมารณรงค์การลดใช้ถุงพลาสติก โดยหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ด้านบรรจุภัณฑ์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และจากแผนการดำเนินธุรกิจดังกล่าวส่งผลให้ในปี 2562 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 558.22 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 23.83 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลให้บริษัทฯ สามารถที่จะทำสถิติใหม่รายได้ในปีนี้สูงขึ้นกว่าที่เคยทำมา
“ต้องยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่มีการหันมาณรงค์ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แทนการลดใช้ถุงพลาสติกนั้น บริษัทฯเองในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหาร และถุงหูหิ้ว ประเภทพลาสติก ก็ไม่นิ่งนอนใจในการเร่งปรับกลยุทธ์ใหม่ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่อภาพรวมทางธุรกิจ ดังนั้นจึงอยากฝากถึงผู้ถือหุ้นและนักลงทุนว่า ไม่ต้องกังวลต่อปัญหาดังกล่าว เนื่องจาก TPLAS มีแผนในการรองรับต่อกรณีดังกล่าวไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการออกโปรดักส์ใหม่ รวมถึงแผนการศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไว้อยู่แล้ว โดยคาดว่าจะเห็นได้ในเร็วๆนี้ ” นายธีระชัยกล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการขยายพื้นที่อาคารสำนักงานบริษัทฯนั้น ล่าสุดการก่อสร้างดังกล่าวแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงจะสามารถควบคุมการทำงานให้มีศักยภาพ และมีระบบในการดำเนินงานและจัดเก็บเอกสารได้มากยิ่งขึ้น ส่วนอาคารโรงงานใหม่ และการติดตั้งเครื่องจักรใหม่
สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติกนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงต้นปี 2563 ซึ่งหากโรงงานดังกล่าวแล้วเสร็จ จะส่งให้บริษัทฯ มีความสามารถรองรับกำลังการผลิตเพิ่มได้มากเกือบเท่าตัว หรือไม่น้อยกว่า30% ปัจจุบันกำลังการผลิตรวมถุงพลาสติกประมาณ 10,200 ตันต่อปี และกำลังการผลิตฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ประมาณ 1,440 ตันต่อปี รวมถึงยังสามารถผลิตไลน์บรรจุภัณฑ์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ด้วยเช่นเดียวกัน